วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

วิเคราะห์ข่าว


ไอซีทีเตือนภัย แฮกเกอร์ล้วงอีเมล์
 
 
ไฮซีทีเผยมีผู้แจ้งถูกเจาะข้อมูลอีเมล์ 10 กว่าราย ปลอมตัวเป็นเจ้าของอีเมล์หวังหลอกลวงให้ส่งเงิน ระบุตรวจสอบลำบาก แต่หากจับได้มีความผิดเข้าข่ายมาตรา 5 และ 7 ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ฯ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
นายวินัย อยู่สบาย ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ใช้อีเมล์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฮอทเมล์และยาฮู เป็นต้น แจ้งเรื่องร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงไอซีทีประมาณ 10 ราย ซึ่งมีปัญหาในลักษณะเดียวกันคือ ถูกแฮกเกอร์หรือนักเจาะข้อมูลในอีเมล์ปลอมแปลงตัวเป็นเจ้าของอีเมล์นั้น แล้วเขียนข้อความว่ากำลังความเดือดร้อนเรื่องเงินอย่างหนัก ส่งไปยังรายชื่ออีเมล์ที่เรารู้จักหรือติดต่ออยู่นั้น เพื่อหลอกลวงให้ส่งเงินไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยมีการแก้ไขรหัสผ่านเพื่อไม่ให้ผู้เป็นเจ้าของอีเมล์เข้าใช้งานได้อีก
นายวินัยกล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นการกลั่นแกล้งจากเพื่อนหรือบุคคลใกล้ชิดที่รู้รหัสผ่านอีเมล์ หรือขโมยรหัสผ่านซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นอีเมล์สาธารณะ โดยมีรูปแบบเข้าไปเปลี่ยนรหสัผ่านโดยที่เจ้าของไม่สามารถเข้าอีเมล์ของตัวเองได้ ทั้งนี้จากการใช้อีเมล์แล้วมีผู้มาเจาะข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่ตรวจสอบยาก แต่ก็สามารถดำเนินการเอาความผิดต่อผู้ที่กระทำความผิดได้ หากเจ้าของอีเมล์สามารถยืนยันกับผู้ให้บริการอีเมล์ว่า ได้สมัครโดยใช้ชื่ออีเมล์นี้อย่างถูกต้อง

"วิธีการตรวจสอบค่อนข้างยุ่งยาก เพราะผู้ใช้บริการต้องยืนยันข้อมูลแรกที่ได้กรอกลงไปยังใบสมัครเพื่อขอให้ปิดอีเมล์หรือขอรหัสผ่านคืน แต่ถ้าหากส่งข้อมูลผิดหรือจำไม่ได้ก็แก้ไขลำบาก ส่วนถ้าเป็นการขโมยรหัสผ่านหรือเจาะข้อมูลของอีเมล์กลางหน่วยงานภาครัฐ ทางกระทรวงไอซีทีสามารถดำเนินการเอาความผิดได้ทันที" ผอ.สำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีผู้เจาะข้อมูลหรือขโมยรหัสผ่านเพื่อกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ในมาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันโดยมิชอบ และการเข้าถึงนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันโดยมิชอบ อีกทั้งการเข้าถึงนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แหล่งที่มา :; http://hilight.kapook.com/view/26744
การวิเคราะห์ข่าว
จากข่าวดังกล่าวเราไม่ควรไว้ใจคนอื่น หรือเชื่อถือโลกออนไลน์จนเกินไป เพราะในโลกออนไลน์เราก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเขาจะมาหลอกลวงเราในรูปแบบใด เราก็ควรมีวิธีการป้องกันตนเองจากสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนที่เราจะเชื่อเราก็ควรหาข้อมูลให้ดีก่อนเพื่อประโยชน์แก่ตัวเราเอง                                                                                                  

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ไทยครองแชมป์ในอาเซียน มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากที่สุด

ไทยครองแชมป์ในอาเซียน  มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากที่สุด


ไทยครองแชมป์ในอาเซียน มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากที่สุด
องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ เผยข้อมูลการท่องเที่ยวในมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา  ระบุว่าภูมิภาคนี้มียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นราว 705 ล้านคน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านคนในปีนี้
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภูมิภาคเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลือกที่จะมาพักผ่อนมากที่สุด ซึ่งประเทศไทยเองมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มสูงมากที่สุดในอาเซียนคือ มากกว่า 3 ล้านคน รองลงมาคือ สิงคโปร์ 1 ล้านคน
การเป็นหนึ่งในภูมิภาคด้านการท่องเที่ยว นับว่าเป็นข้อได้เปรียบที่จะดึงเม็ดเงินในส่วนนี้ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกัน  ประเทศที่มีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุดในโลก ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 1.16 แสนล้านเหรียญสหรัฐรองลงมา คือ สเปน ฝรั่งเศส จีน และอิตาลี ตามลำดับ
แหล่งที่มา :; http://news.mthai.com/general-news/203188.html

วิเคราะห์ข่าว   
จากข่าวดังกล่าว  ทำให้เราทราบว่าประเทศของเราก็เป็นที่น่าสนใจของชาวต่างชาติที่นิยมเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ทั้งยังมีบรรยากาศที่ดี เป็นธรรมชาติ ทำให้ประเทศของเรามีรายได้เพิ่มมากขึ้นเพื่อนำมาพัฒนาประเทศต่อไป แต่อย่างไรก็ตามก็ทำให้เราตระหนักได้ว่าเราก็ควรเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อที่เราจะสามารถสื่อสารได้ในภาษาที่ใช้ในประชาคมอาเซียน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ต่อไป


วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

DukGer

บทนำ

ผมชื่อ  นายชนะศักดิ์  บาลเพชร   ชื่อเล่น  ดุ๊ก  ผมเป็นคนภาคอีสาน อยู่จังหวัดนครพนม  ครอบครัวของผมมีพี่น้องทั้งหมด 2 คน ผมมีพี่ชาย 1 คน ชื่อ เดียร์ ผมเป็นลูกคนที่ 2  ในตระกลูของเราถ้าใครออกลูกมาเป็นผู้ชายจะตั้งชื่อเล่นของลูกทุกคนเป็น ดอ เด็ก  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็น ดอ เด็ก  แต่ถ้าเป็นลูกผู้หญิงก็แล้วแต่จะตั้งชื่อว่าอะไร  
ผมเกิดวันที่ 20 มกราคม  2534  ที่โรงพบาบาลนครพนม 


บทตาม

ด้านการศึกษาผมเรียนชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 ที่โรงเรียนชุมชนไชยบุรี ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่ตอนนั้นผมเป็นเด็กที่เรียบร้อยเพราะพ่อ แม่ของผมเป็นคุณครูอยู่ที่นั่น  พอเรียนจบผมก็สอบเข้าโรงเรียนอุเทนพัฒนาซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอ ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6  ช่วงมอต้น ผลการเรียนเฉลี่ยของผมก็อยู่ในระดับที่ดี 
พอขึ้นมอ 4 ผมก็เลยลองไปสอบจ่าอากาศ ทดสอบผ่านข้อเขียน ภาคปฏิบัติ แต่ผลการตรวจร่างกายไม่ผ่าน ผมจึงกลับมาเรียนที่โรงเรียนอุเทนพัฒนาเหมือนเดิม
พอผมกลับมาเรียนที่โรงเรียนอุเทนพัฒนาช่วงมอปลาย ผมเริ่มติดเพื่อน เริ่มรู้จักการเล่นเกม จึงให้ความสนใจการเรียนลดน้อยลง ผลการเรียนเลยไม่ค่อยดีเท่าที่ควร 
หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนอุเทนพัฒนา ผมก็สอบรับตรงที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในคณะพลศึกษา เอกพลศึกษา พอสอบติดผมก็ไม่ไปสอบที่อื่นอีก จึงได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยนี้มาจนถึงปัจจุบัน



บทเสริม

ผมเป็นคนอีสานแต่แปลกที่ผมไม่ชอบกินส้มตำ  ไม่ชอบกินปลาร้า ผมเป็นคนที่กินรสเผ็ดไม่ได้ เป็นคนที่เรื่องมากอยู่พอสมควร ขี้หงุดหงิด โมโหง่าย แต่เหมือนผมสนิมกับใคร ผมจะเป็นคนที่พูดมาก  ชอบเฮฮา    
ผมเป็นคนที่ชอบสี แดง (แต่ไม่ใช่คนเสื้อแดงนะ 5555 )  และผมก็ไม่ชอบแมนยูกับลิเวอพู  ผมชอบอาเซนอล 



บทสรุป

ผมเป็นคนร่าเริง  ชอบเฮฮากับเพื่อนๆ ผมมีความสุขกับชีวิตที่มีอยู่ มีครอบครัวที่อบอุ่น เข้าใจกันในทุกๆเรื่อง ผมมีความมสุขที่สุดเมื่อได้มาอยู่ตรงจุดนี้ เวลานี้ ณ ที่นี้